Rising Hell เกมอินดี้ ไต่หอคอยอัดปีศาจทะลุฝ้านรก สไตล์ Retro

ไต่หอคอยอัดปีศาจทะลุฝ้านรก Rising Hell เกมอินดี้ สไตล์ Retro โดยทีมงาน Tahoe Games

Rising Hell เป็นเกมอินดี้แนว Action Roguelike โดยคอนเซปต์ของเกมเพลย์นั้นจะไม่ค่อยมีอะไรมาก นอกจากไต่หอคอยสู้กับปีศาจและบอสต่าง ๆ เพื่อเข้าด่านหอคอยถัดไป เนื่องจากเกมนี้หลัก ๆ จะเน้นไปทางเกมเพลย์ จึงไม่ค่อยมีส่วนของเนื้อเรื่องให้ติดตามมากนัก

นอกจาก Introduction ที่เริ่มต้นเกมว่า Arok ตัวละครหลักของเกมเป็นคนบาปที่ติดอยู่ในคุกหอคอยนรกของ Lucifer กับตัวละครที่เราสามารถเล่นได้อีก 2 ตัวได้แก่ Zelos และ Sydna ได้รับพลังจาก Mephistopheles ‘The Trickster’ ที่สามารถใช้ต่อกรกับปีศาจอสุรกายต่าง ๆ ได้ พวกเขาจึงใช้พลังวิเศษนี้เพื่อหลบหนีออกจากคุกหอคอยกัน

รูปแบบของเกมเพลย์นั้นจะเป็นเกมไต่หอคอยเก็บสะสมแต้มและสามารถเล่นได้เรื่อย ๆ จน Gameover เมื่อถึงช่วงเริ่มต้นใหม่ก็จะมาพร้อมกับค่าสถานะที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ซึ่งจากที่ผมได้เล่นมา 10 กว่ารอบ บอกได้เลยว่าเกมนี้ไม่ทำให้ผมรู้สึกเบื่อเหมือนที่คิดไว้ตอนแรกเลย

เพราะถึงแม้เกมแนวนี้จะมีรูปแบบที่ต้องเล่นซ้ำอยู่ตลอดเวลา แต่ในเกมนี้ก็มีระบบ Progression ที่ทำให้ผู้เล่นมีเป้าหมายในการเล่นต่อไปได้เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บ Red Souls เพื่ออัปเกรดค่าสถานะตัวละครในแต่ละครั้งที่เข้าจุด Checkpoint และความยากที่เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เมื่อเราสามารถผ่านแล้วเข้าด่านหอคอยถัดไปได้

ยังไงก็ตามหากผู้เล่นตายเมื่อไหร่ล่ะก็ จะไม่สามารถเล่นต่อจากจุดเดิมได้และค่าสถานะที่เราอัปเกรดไว้จะหายหมด แต่อย่าพึ่งตกใจเพราะนอกจาก Red Souls จะเป็นเงินที่ใช้อัปเกรดค่าสถานะต่าง ๆ ได้แล้ว ยังมีเพชรสีม่วงที่ชื่อว่า Blight ซึ่งสามารถใช้ปลดล็อกตัวละครใหม่ ๆ โดยจะมีรูปแบบในการเล่นที่แตกต่างกันออกไป

สามารถใช้ซื้อ Relics ที่ช่วยปรับค่าสถานะต่าง ๆ ของตัวละครได้ทุกครั้งที่เริ่มเกมอย่างถาวร จากนั้นก็จะมีพวกระบบรางวัลที่นำแต้มในแต่ละรอบของผู้เล่นมาคำนวณเป็น EXP เมื่อสะสมพอที่จะเลื่อนขั้นได้แล้วสามารถปลดล็อกรางวัลต่าง ๆ ที่สามารถช่วยให้ตัวละครนั้นแข็งแกร่งขึ้น

ผมเองก็ได้เล่นจนปลดล็อกตัวละครครบทุกตัวแล้ว หากถามว่าชอบเล่นตัวไหนมากที่สุด คงต้องบอกว่าเป็นตัวละครเริ่มต้นอย่าง Arok เพราะเป็นตัวละครที่โจมตีในระยะประชิดและเล่นได้ง่ายมาก ต่างจากอีก 2 ตัวที่โจมตีด้วยการยิงลูกไฟในระยะไกล

ระบบควบคุมในเกมนี้นับว่าอยู่ในระดับที่เล่นง่าย เพราะคำสั่งในการควบคุมนั้นมีให้ใช้ไม่มากนัก โดยจะมีคำสั่งเดิน, กระโดด, โจมตี, พุ่งตัวหลบ และปุ่ม Interaction เพื่อยืนยันคำสั่งต่าง ๆ ในระหว่างที่เล่น ซึ่งจากตอนที่ผมได้ลองเล่นบน PC เป็นครั้งแรก ปุ่มที่ตั้งค่า Default มาให้ค่อนข้างจะกดไม่ถนัดเลย เนื่องจากผมเป็นคนที่มีนิ้วยาวด้วย แต่โชคดีที่ตัวเกมสามารถตั้งค่าคีย์ใหม่ได้ตามใจชอบ เลยไม่ค่อยมีปัญหาในส่วนนี้เท่าไหร่

ถึงเกมนี้จะมีรูปแบบในการเล่นที่ง่าย แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะเล่นแบบไม่ใช้ความคิดแม้แต่นิดเดียว ซึ่งตอนแรก ๆ ผมก็เล่นแบบนั้นเหมือนกัน จนถึงส่วนที่ต้องสู้กับบอสเท่านั้นแหละครับ ถึงได้รู้ว่าไม่ควรตีไปเรื่อย และควรอ่านสัญญาณจากตัวบอสเพื่อพุ่งตัวหลบท่าโจมตีต่าง ๆ ซึ่งถ้าหลบไม่ทันล่ะก็ มีสิทธิ์ที่เลือดจะโดนลดหมดหลอดภายในพริบตาอย่างแน่นอน

นอกจากรูปแบบเกมไต่หอธรรมดาในโหมด Conquest แล้ว เกมนี้ยังมีอีก 2 โหมดให้เล่น โดยอีกโหมดจะมีชื่อว่า Gauntlet จะเป็นโหมดที่มีด่าน Challenge ท้าทายผู้เล่นในรูปแบบต่าง ๆ สามารถเลือกได้ว่าต้องการเล่นแบบไหนและมีความยากในระดับเท่าไหร่

ซึ่งจะต่างกับโหมด Conquest ที่ว่าจะเน้นเกมเพลย์ในรูปแบบ Challenge สั้น ๆ มากกว่าการไต่หอขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งผมคิดว่าเหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบความท้าทายและต้องการฟาร์ม EXP กับเพชร Blight ในเวลาเดียวกัน

อีกโหมดนึงที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ Weekly Challenge ซึ่งจะมีรูปแบบคล้ายกับโหมด Gauntlet แต่จะมีด่าน Challenge ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละอาทิตย์ นอกจากนั้นแล้วผู้เล่นยังสามารถทำคะแนนเก็บบน Leaderboard เพื่อแข่งกับผู้เล่นทั่วโลกได้อีกด้วย

โดยรวมแล้วตัวเกมเพลย์ถือว่าทำออกมาได้สนุกมาก สามารถเล่นได้เรื่อย ๆ พร้อมกับการควบคุมตัวละครที่ไม่ยากมากนัก แต่ก็ต้องใช้กลไกการหลบหลีกสิ่งต่าง ๆ เพื่อสู้กับศัตรูที่มีระดับยากพอสมควรด้วย ยังไงก็ตามหากคุณเป็นผู้เล่นที่ไม่ชอบเกมเพลย์แนว Roguelike เกมนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคุณซักเท่าไหร่

อีกส่วนหนึ่งคงเป็นเรื่องของตัวละครที่มีรูปแบบในการเล่นที่แตกต่างออกกันไป ด้วยความว่า Zelos กับ Sydna มีการโจมตีที่คล้ายคลึงกันมาก ผมเลยรู้สึกว่ารูปแบบการโจมตีควรทำให้แตกต่างออกไปให้เด่นชัดมากกว่านี้ เพราะทั้งคู่เป็นตัวละครที่เราต้องเก็บเพชร Blight เพื่อปลดล็อก และตัวละคร Sydna เองนั้นมีราคาที่แพงกว่า Zelos เป็น 2 เท่า ด้วยรูปแบบการเล่นที่ไม่แตกต่างกันมากเลยทำให้รู้สึกไม่ค่อยคุ้มค่ากับเพชร Blight ที่เสียไปซักเท่าไหร่

งานภาพกราฟิกของเกมนี้จะเป็นสไตล์ Pixel Art, Retro ที่ทำให้นึกถึง Hades หน่อย ๆ ยังไงก็ตามสภาพแวดล้อมของแต่ละด่าน และการดีไซน์ตัวละครต่าง ๆ ดูไม่ค่อยหลากหลายมากนักแต่มีความเข้ากับธีมของตัวเกมที่กำหนดไว้โดยตรง

สำหรับใครที่มองหาเกมเบาสมองที่ไม่กินเวลามากพร้อมกับราคาที่สบายกระเป๋าล่ะก็ ผมขอแนะนำเกมนี้เลยครับ ซึ่งตัวเกมได้วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PS4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC บนหน้าร้านค้า Steam ในราคา 189 บาทครับ

เว็บไซต์ข่าวเกม ข่าวความเคลื่อนไหววงการเกม ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม ทั้งเกมออนไลน์ และ ออฟไลน์ ทั้ง  PC และเกมมือถือ รีวิวเกม แนะนำเกมน่าเล่น พร้อมคู่มือการเล่น สูตรเกมอีกมากมาย  การแข่งขันเกม E-sport แบบเจาะลึก ต้องที่นี่ inwesport

https://www.beartai.com/review/games/628706