Octopath Traveler มาตามนัด เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว

inwesport

ภาพจาก gamingdose

มาตามนัด Octopath Traveler เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้

Octopath Traveler: Champions of the Continent เวอร์ชั่นมือถือได้ประกาศวันเปิดให้บริการแล้ว ตามที่นัดไว้เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีความคลาสสิกของงานภาพและระบบ Gameplay ที่ทางพี่เหลี่ยมค่อนข้างที่จะถนัด ใครสนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้แล้วทั้งในระบบ Android และ iOS

Octopath Traveler เวอร์ชั่นมือถือจัดว่าเป็นเกมค่อนข้างคลาสสิกผสมแนวคิดสมัยใหม่ระดับหนึ่ง โดยตัวเกมภาคนี้จะกล่าวถึงช่วงเวลาที่หลังจากเกมภาคหลักหลายปีต่อมา สามารถจัดทีมตัวละครได้สูงสุด 8 ตัวแล้วที่สำคัญคุณจะต้องเลือกฝ่ายเพื่อไปสังกัดอยู่แล้วเริ่มออกเดินทางหลังจากนั้น ระบบการเล่นพื้นฐานก็ยังคงเป็นเกมเพลย์ JRPG แบบดั้งเดิมของซีรีส์

ช่วงนี้หลาย ๆ คนน่าจะบ่นว่าทีมงาน Final Fantasy กำลังฟอร์มตกอยู่ เนื่องจากภาคล่าสุดที่วางจำหน่าย (ภาค 15) ทำมาตรฐานของซีรี่ส์เสียไปชนิดที่ว่าเรียกกลับคืนมาไม่ได้ จริงอยู่ว่าเกมมันสนุก แต่เสน่ห์ส่วนมากกลับถูกลดทอนลงไปจนเราไม่รู้สึกว่ามันเป็น Final Fantasy เอาเป็นว่าถ้ามันใช้ชื่ออื่นคนด่าน่าจะน้อยกว่านี้อ่ะนะ

ในขณะที่ Final Fantasy เสียความเป็นตัวเองไปทีละนิด เกมอื่น ๆ ของ Square Enix กลับซึมซับกลิ่นอายเหล่านั้นที่ FF ทิ้งไว้จนกลายเป็นหนึ่งในเกมทางเลือกสำหรับ “ผู้ชื่นชอบ Classic FF” เริ่มตั้งแต่ Bravely Default ที่หลายคนบอกว่ามันคือ FF ในแบบที่ควรจะเป็น และล่าสุดกับ Octopath Traveler ที่เรากำลังจะรีวิวนี่แหละ

Octopath Traveler เป็นผลงานที่ Square Enix ร่วมมือกับ Acquire เพื่อพัฒนาเกม Exclusive สำหรับ Nintendo Switch โดยเฉพาะ คอนเซปต์ของเกมวางไว้ว่าจะเป็นการเดินทางของ 8 ตัวละครที่มีชะตากรรมต่างกัน แต่ต้องร่วมเดินในเส้นทางเดียวกัน เกมนี้ได้โปรดิวเซอร์เป็นคุณ Masashi Takahashi และ Tomoya Asano ซึ่งผลงานเก่าของสองท่านนี้ก็คือ “Bravely Series” อันเลื่องชื่อที่เราพูดถึงไปในย่อหน้าแรกนั่นแหละ

ด้วยความที่เกมได้โปรดิวเซอร์ในลักษณะนี้ แนวคิดในเกมจึงไม่ได้ตามเทรนด์เท่าไหร่นัก กราฟิกในเกมถูกวางแผนไว้ว่าจะใช้ตัวละคร 16 Bit ผสานกับสภาพแวดล้อมแบบโพลิกอนให้อารมณ์แบบเกมเก่า ๆ แต่เอฟเฟคในเกมจะเลือกใช้เอฟเฟคสมัยใหม่ ที่โปรดิวเซอร์คิดแบบนี้เพราะต้องการจะทำตาม “ระบบของ Nintendo” คือไม่พยายามแข่งขันกับชาวบ้านด้วยสิ่งที่เหมือนกันถ้ารู้ตัวว่าแข่งไม่ได้ แต่จะไปแข่งในเรื่อง

inwesport
ภาพจาก gamingdose

แล้วอะไรคือส่วนผสมเก่า ? เกมนี้แฝงเสน่ห์ของ Final Fantasy ไว้อย่างเต็มเปี่ยมโดยที่ตัวมันเองยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ทั้งการเล่าเรื่อง จังหวะ ตัวละคร ทุกอย่างแทบจะเป็น FF เอาเป็นว่าถ้าจะเปลี่ยนชื่อเป็น Final Fantasy: Octopath Traveler ก็คงไม่มีใครคัดค้านแน่นอน

ตัวละครหลักจากทั้งหมด 8 ตัวละคร คุณสามารถเลือกเล่นตัวไหนก่อนก็ได้ ตัวละครที่คุณเลือกจะเป็น “ตัวละครหลัก” หมายความว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนออกได้ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงเนื้อเรื่องของตัวละครนี้ได้ด้วย เมื่อคุณเลือกแล้วเกมก็จะให้เล่นเนื้อเรื่อง Ep1 ของตัวละครนั้นทันที และเมื่อคุณเล่นจบ เกมก็จะเริ่มสอนให้คุณไปหาตัวละครอื่นมาร่วมทีมทันที

จุดเด่นของเนื้อเรื่องอยู่ที่จำนวนตัวละครนี่แหละ เกมมีตัวละครถึง 8 ตัวก็จริง แต่คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเล่นทุกตัวละคร คุณจะเลือกแค่ 4 ก็ได้ หรือจะไม่เลือกตัวละครไหนเข้าทีมเลย เล่นตัวเดียวก็ทำได้ ความยากของเกมจะแปรผันตามตัวละครที่คุณเชิญเข้าทีม เพราะเมื่อคุณมีตัวละครมากขึ้น เควสของตัวละครก็จะยากขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยที่คุณมีความสามารถเท่าเดิม (เพราะทีมของคุณมีได้แค่ 4 คนเท่านั้น) เพราะฉะนั้นคิดดี ๆ ก่อนจะเชิญใครเข้ามา

หลายคนอาจจะคิดว่าแล้วตัวละคร 8 ตัวมันมีเนื้อเรื่องของตัวเอง แล้วมันเกี่ยวข้องกันยังไง ? ความเกี่ยวข้องของทั้ง 8 ตัวละครอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่พวกเขาก็เกี่ยวข้องกันอยู่ดี การผจญภัยที่คุณคิดว่าไม่มีอะไร แต่ในความเป็นจริง “พวกเขาคุยกันหลังไมค์” โดยที่คุณไม่รู้เรื่อง ! ยิ่งพวกเขาอยู่ในทีมเดียวกันนานเท่าไหร่ เวลาเข้าเนื้อเรื่องหลัง Ep2 ขึ้นไป พวกเขาก็จะคุยกันมากเท่านั้น

ส่งผลให้เกมมีตัวเลือกเป็นร้อยแบบในการเล่น คุณจะชวนตัวนั้นเข้าทีมกับตัวนี้ ตัวนี้เข้าทีมกับตัวนั้น สลับสับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในการเล่นแต่ละครั้ง เพื่อดูบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างตัวละครสองตัว แต่ถ้าคุณไม่สนใจที่จะดูความเปลี่ยนแปลง ก็ไม่จำเป็นต้องกลับมาเล่นซ้ำก็ได้

ตัวละครทั้ง 8 ตัวของเกมนี้มีความแตกต่างกันในทุก ๆ ด้าน เริ่มจากเพศ ทรงผม หน้าตา (เกี่ยวไหม?) อาชีพ ทักษะ และความสามารถพิเศษ การที่จะพัฒนาตัวละครได้คุณจะต้องเก็บแต้ม JP ให้ถึงจำนวนที่กำหนดเสียก่อน เมื่อเก็บจนถึงจำนวนที่ใช้ได้แล้ว คุณจะสามารถเลือกอัปเกรดสกิลของตัวละครนั้น ๆ ได้ 1 สกิล และถ้าหากคุณเปิดสกิล Active จนถึงจำนวนที่กำหนด ก็จะมีสกิลแบบ Passive ให้คุณติดตั้งเพื่อเพิ่มความเก่งกาจให้กับตัวละครอีกด้วย

ระบบที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่และน่าสนใจอย่างมากคือ “ความสามารถพิเศษ” ของตัวละครแต่ละตัว ในเกมนี้ตัวละครทั้ง 8 ตัวจะมีความสามารถพิเศษที่ใครในโลกนี้ก็ทำไม่ได้ เช่น

  • การขโมยของจาก NPC ที่ช่วยให้คุณได้ไอเท็มหายากมาง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเงิน
  • การหลอกถามข้อมูลจากคนอื่นเพื่อหา Hidden Item
  • การเอาศาสนามาชี้นำ NPC คนนั้น ๆ ทำให้เราสามารถเรียกเขาออกมาช่วยในการต่อสู้ได้ และการซื้อของจาก NPC เพื่อนำไปขายเอากำไร เป็นต้น

ระบบต่อสู้ของเกมนี้เป็นแบบ ATB (Active Time Battle) Turn Base ถ้าคุณนึกไม่ออกให้นึกถึง FF ภาคหลัง ๆ ที่จะมีหลอดความเร็ววิ่งอยู่ เมื่อเต็มคุณจะได้โจมตี เกมนี้ใช้ระบบแบบนั้นเลย เพียงแต่ไม่มีหลอดบอกแค่นั้น สิ่งที่เพิ่มมาจากเดิมคือความสามารถพิเศษของตัวละคร ระบบเบรค และระบบเกจ BP ที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งเมื่อเราถูกโจมตี

ในหัวข้อที่ต้องอธิบายกันยาวเลยคือระบบเบรคนี่แหละ ศัตรูทุกตัวในโลก Octopath จะมีจุดอ่อนของตัวเองอยู่ ซึ่งเกมจะไม่บอกอะไรคุณเลย คุณจะต้องลองโจมตีศัตรูดูว่ามันแพ้อะไร ถ้ามันแพ้การโจมตีของคุณ จุดอ่อนก็จะถูกเผยทันที และเมื่อคุณโจมตีจุดอ่อนไปเรื่อย ๆ จนโล่ของศัตรูเหลือ 0 ศัตรูจะถูกเบรค พลังโจมตีของศัตรูจะลดลง พร้อมทั้งทำให้เทิร์นถัดไปถูกยกเลิกอีกด้วย

ในส่วนของความสามารถพิเศษ ก็เหมือนที่อธิบายไปในย่อหน้าที่แล้ว แต่เปลี่ยนเป็นการใช้ในการต่อสู้แทน เช่น สามารถหาจุดอ่อนศัตรูได้เลย 1 อย่างก่อนเริ่มการต่อสู้, สามารถไถตังศัตรูได้, สามารถจับศัตรูมาเป็นสัตว์อสูรได้ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ส่วน BP เป็นระบบสะสมแต้ม เมื่อเราโดนโจมตี มันจะขึ้นมา 1 แต้ม คุณสามารถกดใช้เพื่อเสริมการโจมตีปกติและสกิลของคุณได้ ซึ่งมันจะทำให้การโจมตี-สกิล นั้น ๆ แรงกว่าปกติ 1 เท่า ต่อการใช้แต้ม BP 1 แต้ม คุณสามารถกดสูงสุดได้ 3 ครั้ง หมายความว่าการโจมตี-สกิล ของคุณจะแรงกว่าปกติถึง 4 เท่าเลยทีเดียว

นอกจากระบบการเล่นที่ซับซ้อน เนื้อเรื่องที่สนุก+กินเวลาเป็นอย่างมาก ในด้านอื่น ๆ Octopath ก็ไม่ได้ทิ้งให้มันห่วย เริ่มจากฉากที่ใช้เทคนิคการสร้างแบบโพลิกอน ผสมกับเอฟเฟครอบตัวแบบสมัยใหม่ ทำให้มันได้อารมณ์แปลก ๆ แต่สวยงาม ถือเป็นเอกลักษณ์ที่เมื่อทุกคนเห็นภาพแบบนี้ ก็จะรู้ได้เลยว่าเป็นเกมไหน

ในเรื่อง ost แทบจะไม่ต้องห่วงอะไรเลย เพราะ Square Enix เป็นค่ายที่ไว้ใจได้ในเรื่องนี้ แม้ว่า FFXV จะห่วยขนาดไหน ost ของเกมก็ไม่ได้ห่วยตามไปด้วย ใน Octopath ก็เช่นกัน เพลงทุกเพลงที่ถูกบรรเลงในเกม ให้อารมณ์ตรงกับช่วงเวลาที่มันเริ่มเล่นทั้งนั้น เรียกได้ว่าถ้าเล่นเกมนี้แบบปิดเสียง อรรถรสจะหายไปราว 50% เลยทีเดียว

สรุป

Octopath Traveler เป็นอีกหนึ่งเกมคุณภาพคับแก้วที่คุณควรจะลองเล่นให้ได้ซักครั้งหนึ่ง มันคุ้มราคาของตัวมันเอง มันคุ้มถ้าคุณจะซื้อ Nintendo Switch มาซักเครื่องเพื่อเล่นมัน มันเป็นทั้ง Final Fantasy ในอุดมคติของใครหลายคน และเป็นทั้ง RPG ที่ยอดเยี่ยมได้ด้วยตัวมันเอง เอาเป็นว่าถ้าคุณรู้สึกประทับใจกับ FFVI แล้วไม่เคยประทับใจ RPG ใด ๆ อีกเหมือนผู้เขียน เกมนี้แหละจะทำให้คุณประทับใจแน่นอน

เว็บไซต์ข่าวเกม ข่าวความเคลื่อนไหววงการเกม ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม ทั้งเกมออนไลน์ และ ออฟไลน์ ทั้ง  PC และเกมมือถือ รีวิวเกม แนะนำเกมน่าเล่น พร้อมคู่มือการเล่น สูตรเกมอีกมากมาย ต้องที่นี่ เทพ esport

ที่มา : thisisgamethailand.com , gamingdose